อ่านเรื่องเสียวผู้หญิง - แพ้ความใกล้ชิด ผิดเพราะไม่ห้ามใจ
เมื่อประมาณปีเศษที่ผ่านมา ฉันได้ย้ายที่ทำงานมาอยู่ที่ใหม่
ซึ่งที่นี่แหละที่ทำให้ฉันรู้ตัวว่าเปลี่ยนแปลงไปทั้งๆ
ที่ไม่เคยคิดว่าตัวเราจะเป็นเช่นนี้ ฉันมีครอบครัวที่อบอุ่น
แต่งงานเมื่อสิบปีเศษมาแล้ว มีบุตร 1 คนกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยม
ส่วนใหญ่ลูกก็จะอยู่กับยาย จะไป ๆ มา ๆ
ประจำเพราะบ้านยายก็อยู่ไม่ห่างกันมากนัก ฉันจะอยู่บ้านคนเดียวเสมอ ๆ
เพราะสามีทำงานที่ต่างจังหวัด 1 – 2 สัปดาห์จะมาสักครั้ง
ทุกครั้งที่เขามาเราก็จะมีความสุขกันตามประสาผัวเมียที่แยกกันอยู่
ซึ่งก็ยอมรับว่าเราต่างก็มีความสุขมากไม่แพ้กันตลอดมาสิบปีเศษ
ถึงอายุฉันจะใกล้สี่สิบแล้วก็ตาม แต่ฉันเป็นคนรูปร่างเล็ก ผิวขาวเนียน
แต่งตัวดี สะอาดดูแลเอาใจใส่สุขภาพอย่างดี
ควบคุมเรื่องอาหารและออกกำลังกายสม่ำเสมอ ฉันจึงดูอ่อนกว่าวัย
(ไม่ได้ชมตัวเองแต่เพื่อน และสามีมักจะชมบ่อย ๆ
ซึ่งมันเป็นความภาคภูมิใจและดีใจของฉันอย่างยิ่งทีเดียว)
และในช่วงปีเศษที่ผ่านมา มันก็ได้เกิดอะไรขึ้นกับฉัน
ฉันได้ทำงานในหน้าที่ที่จะต้องใกล้ชิดกับหัวหน้าแผนกของออฟฟิศที่ทำงานอยู่
หัวหน้าฉันเขาเป็นคนใจดี อัธยาศัยไมตรีดี พูดคุยเก่งเป็นที่เคารพ
รักใคร่ของลูกน้องและผู้อยู่ใกล้ชิดมากจากความใกล้ชิดสนิทสนมที่ได้ทำงาน ร่วมกันเป็นประจำ ทำให้ใจฉันอดที่จะปลื้มชื่นชมเขาไม่ได้ รูปร่างหน้าตาก็ธรรมดาๆ แต่ยอมรับว่าเขามีเสน่ห์มาก
ฉันรับอย่างไม่อายเลยว่ารู้สึกอยากจะอยู่ใกล้ๆ อยากพูดอยากคุย กับเขา
เวลาที่ได้อยู่ใกล้เขาแล้วมันรู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก
ความรู้สึกนี้มันค่อยๆ ก่อตัวมากขึ้นทุกขณะจนน่าจะเรียกว่าเป็นความรักก็ไม่ผิด แต่ถึงฉันจะแอบรัก แอบชอบเขาปลื้มเขาขนาดไหนก็ตามฉันก็พยายามเก็บความรู้สึกเหล่านั้นไว้ไม่เคย แสดงออกให้ใครๆ
แม้แต่ตัวเขาทราบเลยแม้แต่น้อยในบางครั้งถ้าไม่เป็นการคิดเข้าข้างตนเองมาก เกินไปแล้วฉันก็คิดว่าเขาก็อาจจะมีความรู้สึกไม่แตกต่างจากฉันหรอก แต่ด้วยความที่เขาเป็นคนที่เป็นกันเองกับลูกน้องทุกๆ
คนมันจึงเป็นการยากที่จะสรุปเช่นนั้นได้ เขาให้ความสนิทสนมกับทุกๆ คน
กับฉันและครอบครัวเขาก็รู้จักเป็นอย่างดีทุกครั้งที่สามีกลับมาบ้านเราก็จะเชิญเขาไปทานข้าวที่บ้านเสมอ
หรือเวลาที่ครอบครัวของหัวหน้าจากต่างจังหวัดมาเขาก็จะพามารู้จักมาเยี่ยมบ่อย ๆ เช่นกัน
ดังนั้นเราจึงเป็นเสมือนทั้งเพื่อนและผู้บังคับบัญชา
แล้วเมื่อหลังปีใหม่ที่ผ่านมาที่ออฟฟิศได้คัดเลือกฉันและหัวหน้าไปสัมมนาและ ดูงานที่จังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือเป็นเวลา1 วัน 1 คืน เราเข้าพักในโรงแรมที่บริษัทจัดให้คนละห้อง
หลังจากที่ดูงานและเสร็จสิ้นแล้วเย็นนั้นก็มีงานเลี้ยงอาหารเย็นแก่ผู้ที่ เข้ารับการสัมมาก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับห้องพักเพื่อพักผ่อนเตรียมกลับในวัน รุ่งขึ้นหลังจากเสร็จงานเลี้ยงที่โรงแรมจัดให้แล้วประมาณสองทุ่มเศษ
หัวหน้าได้ชวนฉันลงไปนั่งฟังเพลงต่อที่ห้องชั้นล่างของโรงแรมเพราะเห็นว่ายังไม่ดึกมากนัก
เราลงไปนั่งฟังเพลงเบา ๆ ในบรรยากาศสลัวๆเขาสั่งเบียร์มาดื่มฉันก็ดื่มเป็นเพื่อนเขา
ในความรู้สึกของฉันขณะนั้นฉันบอกตรง ๆ ว่ามีความสุขมาก ที่ได้นั่งอยู่ใกล้
ๆ ได้คุยกับเขา มันเหมือนกับว่าเป็นโลกของเราโดยเฉพาะสายตาที่เขามองฉันถึงแม้ว่ามันจะค่อน ข้างมืดแต่ฉันคิดว่ามันสายตาที่เปล่งแวววาวซ่อนความรู้สึกบางอย่างแบบไม่ ธรรมดา
เช่นปกติ คำพูด น้ำเสียงมันช่างอ่อนหวานนุ่มนวลเป็นกันเองสร้างความอบอุ่นสุขใจเหลือเกิน
เบียร์หมดไปหนึ่งขวดเขาก็ชวนฉันออกเต้นรำมันเป็นสัมผัสแรกที่เรามีต่อกันเป็นอย่างจงใจ แรกๆ ฉันรู้สึกหวาดๆ
สั่นเขินไม่น้อยที่เดียวแต่เพียงไม่กี่นาทีต่อมาความรู้สึกก็ค่อยๆเปลี่ยน กลับกลายเป็นความอบอุ่น อ่อนหวาน นุ่มนวลซาบซึ้งใจ ร่างของเราทั้งเบียดเสียดกันไปมาในระยะแรก ๆ
แล้วต่อมาก็แนบกันสนิทคล้ายกับว่าเราต่างตั้งใจที่จะที่จะเบียดแนบชิดกัน
มือของเราทั้งสองต่างก็กอดกันและกันแน่นขึ้น จนฉันเองรู้สึกร้อนซ่า
ซาบซ่านขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้จริงๆ รูปร่างของเราไม่แตกต่างกันมากนัก
เวลายืนในลักษณะอย่างนี้จมูกเขาจะซบรดไออุ่นลมหายใจอยู่บริเวณต้นคอด้านหลังของฉัน
วนเวียนอยู่บริเวณ ซอกหู แก้ม บางครั้งก็ได้กลิ่นลมหายใจของกันและกัน
ฉันเริ่มมีความรู้สึกเร่าร้อนยิ่งขึ้นอารมณ์หวั่นไหวเพราะขณะนี้ตรงส่วนกลางของร่างกายเรา
ต่างก็ถูไถบดเบียดกันแน่นยิ่งขึ้นเรื่อยๆ จนฉันรู้สึกถึงความเป็นสันนูนกดดันตรงบริเวณท้องน้อยเหนือโหนกนูนได้อย่าง ชัดเจนฉันเองก็พยายามที่จะดันเบียดส่วนเนื้อนุ่มของตนเองให้มันรับกับความ แข็งแกร่งส่วนนั้นของเขาเช่นกันด้วยอารมณ์ที่สุดแสนจะอดกลั้นต่อไปจนรู้ตัว ว่าตรงร่องหลืบแห่งความเสียวซ่านมันแฉะเยิ้มไปด้วยเมือกแห่งความต้องการซึ่ง เขาเองถึงไม่บอกฉันก็รู้ว่าความรู้สึกเขาก็ไม่ต่างจากฉันเลย
ใกล้ๆสี่ทุ่มเราจึงกลับขึ้นห้องพักด้วยอารมณ์ที่ต่างเตลิดเพลิดไปด้วยความ เสน่หาที่ต่างมีต่อกันและกันเขาเข้ามาร่วมอยู่ในห้องพักของฉันเพียงแค่ปิด ประตูห้องเท่านั้นเองเราก็ต่างโผเขาหากันทันที
เรายืนกอดกันแน่นตรงประตูปลายเตียงเขาดันฉันยืนพิงผนังห้องประทับรอยจูบแรก ลงที่ริมฝีปากฉันอย่างนุ่มนวลอ่อนหวานฉันก็เผญิอรับรสจูบอันแสนประทับใจจาก เขาด้วยความเต็มอกเต็มใจอย่างที่สุด
รสจูบเขาช่างแสนวิเศษ ปลุกเร้าอารมณ์ได้อย่างสุดจะบรรยาย เราต่างแลกจูบ
แลกลิ้นชิมรสกันอย่างเนิ่นนาน อย่างไม่รู้จักเบื่อทุกส่วนในร่างกายเราต่างเบียดเสียดกันอย่างแนบแน่นถึง แม้ว่าร่างของเราจะยังมีเสื้อผ้าอาภรณ์ปิดกั้นอยู่ก็ตามแต่ทำไมฉันถึงได้มี อารมณ์ และมีความสุขมากมายขนาดนี้ก็ไม่รู้
ฉันกอดเขาแน่นเพื่อให้โหนกเนื้อของตนเองถูกกดอัดจากอาวุธที่แข็งเป็นลำนูนอย่างถนัดขึ้น
ซึ่งเขาเองก็เหมือนจะเข้าใจความต้องการของฉัน เขาก็พยายามกด
ดันมันเข้ามาเบียดกับเนินเนื้อจนฉันเองถึงกับยืนขาสั่นเสียวซ่านเกร็งไปทั้ง ร่าง เมือกแห่งความเสียวพลั่งพลูออกมาจนฉ่ำแฉะเพียงแค่จะเริ่มต้นเท่านั้นเขาส่ง ฉันถึงสวรรค์เสียแล้ว
ซึ่งเขาก็คงจะสังเกตอาการของฉันออกเขาจึงประคองร่างที่อ่อนระทวยของฉันไปนอนลงที่เตียงอันอ่อนนุ่ม
ในขณะที่เขาก็นอนลงที่ข้างกายของฉันมือของเรายังคงต่างไม่ปล่อยจากร่างของ กันและกัน โดยเฉพาะเขา ทั้งปาก จมูกมือ ต่างก็ซุกไซร้ จูบ ลูบไล้ไปทั่วร่างของฉัน
เสื้อผ้าของเราค่อยหลุดออกจากร่างจนไม่เหลืออะไรเลยโดยเราต่างก็ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ร่างที่ได้สัดส่วนขาวเนียนของฉันถูกเปิดเผยออกอวดความงามอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว
เขาปลุกเร้าไป ปากก็ชมตลอดเวลามันช่างเป็นความสุขใจภาคภูมิใจเหลือเกินที่ได้ยินได้ฟังความ พูดที่อ่อนหวาน ชมความสวยงามแห่งเรือนร่างที่ดิฉันพยายามดูแลรักษามันมาเป็นอย่างดีตลอดมา ความในใจ
ความต้องการที่เขามีต่อฉันถูกระบายออกมาจนหมดสิ้นในขณะที่เขากำลังทำหน้าที่สรรค์สร้างความสุข
และปลุกเร้าอารมณ์บนเรือนร่างของฉัน เขาคงไม่รู้หรอกว่า สิ่งต่างๆที่เขากำลังปฏิบัติต่อฉันขณะนี้ ทั้งคำพูด และการกระทำมันทำให้ฉันมีความสุขมากเหลือเกิน สุขทั้งกาย สุขทั้งใจ
ฉันภูมิใจเหลือเกินที่ทำให้คนที่เรา(แอบ)รักถูกใจ ชอบใจ
เขาจูบไปทั่วใบหน้า ริมฝีปาก ซอกคอ ซอกหู ซุกไซร้ เนินเนื้อที่หน้าอก
ที่ขาวผ่องยองใย ถึงขนาดมันจะไม่ใหญ่โตมานักแต่มันก็ไม่เล็กจนเกินไป
ถึงสภาพมันจะเหละเหลวไปตามวัยที่ใกล้จะสี่สิบก็ตามแต่ด้วยความที่เป็นคนดูแล
บริหารอย่างสม่ำเสมอ มันก็ยังคงสภาพได้สวยไม่น้อยทีเดียว
ดูเขาจะชอบมันมากด้วย แวะเชยชมอยู่นานมากทั้งลูบไล้
ทั้งจูบและก็กินสลับไปมาทั้งสองข้างส่วนยอดเม็ดสีชมพูอ่อนนั้นถึงกับแข็ง เป็นไตสู้กับปลายลิ้นอันเร่าร้อนของเขาอย่างไม่ยอมแพ้ทำเขาฉันถึงกับแอ่นมัน มารับรสสัมผัสอย่างลืมตัว เขาทั้งบีบทั้งขบทั้งเม้ม
กัดเบาๆที่หัวนมของฉัน มันช่างทำให้ฉันทั้งสุข ทั้งเสียวเหลือเกิน
ฉันได้แต่กอดเขาแน่น เขาก็กินไปชมไปแสงไฟสลัวจากหลอดเล็กบนเพดานก็สามารถมองเห็นความสวยงามได้ อย่างชัดเจนเขาช่างเก่งเหลือเกิน ฉันไม่เคยสุขเคยเสียวเช่นนี้มาก่อนเลย
เขาละจากเนินอกเลื่อนต่ำลงที่หน้าท้องที่เขาเนียนวนเวียนต่ำลงไปที่ท้องน้อย ซบใบหน้าลงไปบนความอ่อนนุ่มตรงลอนเหนือโหนกแล้วก็ต่อลงถึงเนินเนื้อที่ค่อน ข้างโหนกนูนมีขนอันอ่อนนุ่มปกคลุมพอประมาณเขาใช้มือนำทางไปก่อนลูบไล้เบาๆลง บนเนินเนื้อ ที่แอ่นอวดอยู่ตรงหน้าเขาจองมองมันด้วยสายตาที่ฉ่ำเยิ้มบ่งบอกถึงความ ปรารถนาแห่งอารมณ์มือลูบคลึงไปมาบนโหนก ปากก็ชมถึงความโหนกนูน ความอวบใหญ่
“ตัวเล็ก ๆ แต่ทำไหมตรงนี้ถึงใหญ่จัง ”คำชมนี้ฉันรู้ดีว่าเขาไม่ได้แกล้งชมหรอกเพราะว่าสามีก็ชมเช่นนี้ตลอดมา
นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ฉันเป็นปลื้มเหลือเกินที่มีความพิเศษเป็นของตนเอง
เหนือหญิงคนอื่นไม่กี่อึดใจต่อมาเขาก็ซบหน้าลงสัมผัสกับความอิ่มเอิบบนนูนเนื้อที่โดดเด่น
ทำเอาฉันถึงกับสะดุ้งโหยงด้วยความซ่านสยิวที่เกิดขึ้นเมื่อปลายลิ้นที่เร่า ร้อนของเขาแตะลงที่กลางร่องอันเปียกแฉะไปด้วยเมือกแห่งความต้องการที่ทะลัก ล้นออกมาจากภายในอย่างท่วมท้น
ดูเขาจะไม่ใส่ใจกับมันเลย ค่อยๆแยกขาฉันให้กว้างออกเพื่อเปิดทางสะดวกในการสัมผัส
ฉันเสียวมากได้แต่แอ่นเนินขึ้นรับกับลิ้นที่สุดแสนจะเก่งกาจของเขา ทั้งกวาด
ทั้งตวัดทั้งแยงเขาลึกๆ ตื้นๆ จนฉันถึงกับร้องครางอย่างมีความสุดแบบสุดๆ
จนไม่อาจกลั้นต่อไปได้ ร่างเกร็งแน่นสั่นสะท้าน แอ่นโหนกขึ้นอย่างสุด ๆ
ทั้งมือ ทั้งขาอ่อนทั้งสองกอดรัดส่วนบนของเขาแน่น โอ…. สวรรค์
อะไรจะสุขปานนี้ …..เขาเก่งเหลือเกิน ฉันก็สุขเหลือเกิน
ไม่เคยที่จะสุขแล้วสุขอีกเช่นนี้มาก่อน เขาค่อยๆ
เลื่อนกายอันเปลือยเปล่าขึ้นทับร่างร่างฉันอ่อนระทวยด้วยความสุขของฉัน
มือไม้ของเขายังคงไม่ลดละจากความนุ่มเนียนบนเรือนร่างของฉัน
เขาเริ่มต้นด้วยการประกบริมฝีปากลงบนริมฝีปากของฉันเริ่มจูบแบบนุ่มนวล
อ่อนหวาน อีกแล้วเห็นว่าฉันชอบรสจูบเขาก็ช่างรู้ใจรสจูบเขาช่างประทับใจเหลือเกิน เร้าใจ เร้าอารมณ์ได้สุดๆ ไม่เพียงเท่านั้นส่วนข้างล่างของเข้า